รูปแบบการโฆษณาบน Facebook ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันคืออะไร? โฆษณา Facebook ประเภทใดที่ได้ใช้มากที่สุด? การโฆษณาแบบคลิกไปที่เว็บบน Facebook คืออะไร? ค้นหาโฆษณา 12 รูปแบบบน Facebook ได้ในโพสต์นี้กับ Sapo เลย
1. โฆษณาแบบหมุน (Carousel ads)
นี่คือหนึ่งในรูปแบบการโฆษณาบน Facebook รูปแบบใหม่และมีประสิทธิภาพมาก คุณลักษณะเฉพาะนี้ช่วยให้คุณสามารถแสดงผลิตภัณฑ์หรือบริการหลายรายการได้ในเวลาเดียวกัน รูปแบบหมุนสามารถใช้สำหรับโฆษณาลิงก์หรือแอพมือถือเพื่อกระตุ้นผู้คนเข้าชมเว็บไซต์หรือแอพ
โฆษณาแบบหมุนเป็นรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาบน Facebook ในปี 2019
จะมีอะไรดีไปกว่าความสามารถในการสร้างแคมเปญโฆษณาที่เชื่อมโยงอย่างชัดเจนและแสดงแนวคิดโดยรวมไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์หรือบริการบางอย่างเดียว
สำหรับ Carousel นี้จะเปิดให้ลงภาพได้มากที่สุด 5 ภาพ จะอยู่ในรูปแบบที่สามารถโต้ตอบกันได้ (interactive), ดึงดูดสายตาและช่วยในการรับรู้แบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น
Facebook ได้ยกกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จกับการใช้ Carousel โดยเป็นการโปรโมทแอปพลิเคชัน FoodPanda ซึ่งดึงดูดด้วยรูปอาหาร ผลที่ได้ก็คือ ได้ CTR (click-through rates) เพิ่มขึ้นเป็น 180% และลด CPI 39%"
โฆษณาแบบหมุนมักมีข้อกำหนดดังต่อไปนี้:
ภาพคมชัดขนาด 600 × 600;
โฆษณามีความยาวประมาณ 90 อักษร
หัวข้อมีความยาวประมาณ 25 อักษร
คำอธิบายผลิตภัณฑ์หรือบริการมีความยาวประมาณ 30 อักษร
ลองสัมผัสรูปแบบการโฆษณาบน Facebook สักครั้งคุณจะรู้สึกถึงความแตกต่างและประสิทธิผลที่นำมาสู่ธุรกิจของคุณ
2. โฆษณาไดนามิก (Dynamic)
โฆษณาแบบไดนามิกมีลักษณะเหมือนโฆษณารูปภาพเดี่ยวอื่นๆ หรือโฆษณาที่สร้างในรูปแบบภาพสไลด์บน Facebook, Instagram และ Audience Network อย่างไรก็ตาม แทนการสร้างโฆษณาสำหรับสินค้าแต่ละอย่างของคุณแยกจากกัน คุณจะต้องสร้างเทมเพลตโฆษณาที่สามารถใช้รูปภาพและรายละเอียดจากฟีดข้อมูลของคุณสำหรับสิ่งที่คุณต้องการโฆษณาได้โดยอัตโนมัติแทน
โฆษณาแบบไดนามิกใช้พิกเซลของ Facebook หรือ SDK ในการแสดงโฆษณาแก่ลูกค้าแสดงความสนใจในธุรกิจของคุณโดยมีการดำเนินการที่คุณให้ความสนใจบนไซต์ของคุณ
"ความเกี่ยวข้องสูง - โฆษณาที่แสดงจะแสดงเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าสนใจ
ความสามารถในการปรับขนาด - ลดภาระงานโดยการสร้างหน่วยโฆษณาหลายหน่วยสำหรับผลิตภัณฑ์/กลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมด"
การกำหนดเป้าหมายอุปกรณ์ - ด้วยรูปแบบโฆษณาตอนนี้ผู้โฆษณาสามารถกำหนดเป้าหมายลูกค้าบนเดสก์ท็อป สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้
โฆษณาผลิตภัณฑ์แบบไดนามิกเป็นรูปแบบของโฆษณาบน Facebook ที่มีอัตราการแปลงสูง
Up-selling และ Cross-Selling - คุณสามารถกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่ซื้อสินค้าจากชุดผลิตภัณฑ์หนึ่งชุดและสินค้าที่รวมกลุ่มจากหมวดหมู่อื่น นอกจากนี้ด้วยรูปแบบโฆษณานี้ผู้โฆษณาสามารถโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่มีผลกำไรสูงขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโฆษณาผลิตภัณฑ์แบบไดนามิกคุณเพียงแค่ต้องสร้างโฆษณาบน Facebook ง่ายๆโดยไม่ต้องเพิ่มชื่อผลิตภัณฑ์ คำอธิบาย หมายเลข ID หน้า Landing Page หรือ URL รูปภาพเพราะ Facebook จะรวบรวมโดยอัตโนมัติป้อนข้อมูลให้คุณ
นอกจากนั้นเมื่อไม่มีสินค้าอยู่ในสต็อกบนเว็บไซต์แล้ว Facebook จะหยุดแสดงโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์นั้นโดยอัตโนมัติหลีกเลี่ยงกรณีที่ผู้ใช้ไม่พอใจเนื่องจากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาสนใจ
3. โฆษณาวิดีโอแนะนำ (Featured Videos)
โดยปกติแล้วเว็บ “About” ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจบน Facebook มักจะอยู่ในรูปแบบคงที่โดยมีเพียงข้อความและข้อมูลเท่านั้น นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าไม่สนใจและอยากมาดูเว็บไซต์ขายของคุณ
แต่การใช้วิดีโอโฆษณาที่มีการแนะนำตัว การรวมวิดีโอที่แตกต่างกันเพื่อสร้างไฮไลต์จะช่วยเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ของธุรกิจ เนื่องจากเช่นเดียวกับรูปภาพวิดีโอมักได้รับความสนใจมากกว่าจากแถบเลื่อนบน Facebook
ในทางกลับกันวิดีโอเด่นสามารถเปลี่ยนชื่อได้ง่ายและหลังจากโพสต์บน Facebook แล้วคุณสามารถโพสต์บนบล็อกช่อง YouTube หรือแชร์บนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ
อ่านเพิ่มเติม: ประโยชน์ของการใช้วิดีโอ Marketing
4. Facebook Leads Ads - รูปแบบการโฆษณาบน Facebook ที่มีประสิทธิภาพ
คุณต้องการรวบรวมลูกค้าโดยใช้ Facebook หรือไม่? คุณได้พิจารณาใช้รูปแบบการขายของแพลตฟอร์ม Facebook แล้วหรือยัง? ในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้วิธีตั้งค่า Facebook Lead Ads ทีละขั้นตอน คุณจะค้นพบว่ามีตัวเลือกใดบ้างที่นำไปสู่การใช้วิธีเพิ่มคำถาม และแบบฟอร์มอีกมากมาย
โฆษณานี้เปิดตัวในปี 2015 ซึ่งแตกต่างจากโฆษณา Facebook ประเภทเดิมๆ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องออกจาก Facebook เพื่อกรอกแบบฟอร์ม ด้วย Facebook Lead Ads เมื่อผู้ใช้คลิกที่ Call-To-Action แบบฟอร์มจะปรากฏขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลโดยไม่ต้องสลับไปยังหน้าอื่น
เป็นเรื่องที่สำคัญในการเลือกคำถามมาถามผู้ใช้ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเลยคือ แบรนด์อยากรู้หรืออยากได้ข้อมูลอะไรจากผู้ใช้บ้าง โดยสิ่งที่ต้องคำนึงอีกอย่างคือ ผู้ใช้จะสะดวกใจในการตอบคำถามหรือไม่ เพราะฉะนั้นคำถามที่ใช้ควรเป็นจุดกึ่งกลางที่รับได้ทั้งแบรนด์และผู้ใช้ แนะนำว่าไม่ควรถามเยอะ เอาแค่สิ่งที่สำคัญพอที่เราประสานงานกับผู้ใช้ต่อได้ ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจเป็นคอนโดใหม่ แบรนด์เพียงให้ผู้ใช้กรอกชื่อ อีเมลล์ เบอร์โทรศัพท์ และเรทราคาที่ต้องการเท่านี้ แบรนด์ก็สามารถนำข้อมูลที่ได้ ส่งต่อให้ทีมขายเพื่อประสานงานต่อกับลูกค้าได้โดยตรง
การโฆษณา Facebook lead เป็นรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาบน Facebook
สิ่งที่ยอดเยี่ยมคือเมื่อใช้โฆษณาบน Facebook ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ลิงก์ใหม่เพื่อกรอกข้อมูลและสามารถป้อนข้อมูลได้อย่างง่ายดายรวดเร็วโดยไม่ต้องทำแบบสำรวจข้อมูลให้ยุ่งยากบ่อยครั้ง
5. โฆษณาละทิ้งของในรถเข็น (Abandoned Cart Ads)
คุณอาจจะคิดว่ามีแค่คุณเท่านั้นที่ต้องเจอกับปัญหาเหล่านี้ แต่จริง ๆ แล้วคุณไม่ได้อยู่คนเดียวครับ เพราะจริง ๆ แล้ว ลูกค้ามีอัตรา Cart Abandonment มากถึง 70% เลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจไม่ซื้อสินค้ามีหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น ขั้นตอนการชำระเงินที่ยุ่งยาก การมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่เห็นในตอนแรก ราคาค่าขนส่ง หรือ นโยบายการคืนสินค้า/คืนเงินที่ไม่ชัดเจน
ดังนั้นจะทำยังไงให้พวกเขากลับมาที่เว็บไซต์ของคุณเพื่อทำการซื้อได้? ส่งอีเมล์หรือ? น่าเสียดายที่ในทางสถิติมีลูกค้าเพียง 10% เท่านั้นที่ไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ที่ให้ที่อยู่อีเมลกับคุณดังนั้นวิธีการแบบเดิมนี้จึงแทบไม่มีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าเหตุผลของการตัดสินใจยกเลิกการสั่งสินค้าจะเป็นอะไรก็ตาม อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะยังไม่สายเกินไปที่ผู้ประกอบการจะวางกลยุทธ์ในการทำ Remarketing ผ่านช่องทางเฟสบุค เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าอีกครั้ง และเป็นการย้ำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ของเราขึ้นมา ทำให้โอกาสในการขายสินค้ามีเพิ่มสูงขึ้นค่ะ บางครั้ง การทำ Remarketig ผู้ประกอบการอาจยื่นข้อเสนอพิเศษ ด้วยการสร้าง ***Event Tracking เพื่อใช้ติดตามผู้ที่มาเข้าชมหน้าเว็บไซต์ของเรา เพื่อวิเเคราะห์ว่าผู้ใช้มีความสนใจในสินค้าประเภทไหนบ้าง หรือติดตามดูพฤติกรรมอื่นๆ
6. การโฆษณาตามกิจกรรม (Event Responsive)
ในรูปแบบของการโฆษณาบน Facebook การจัดกิจกรรมถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการโปรโมตแบรนด์ดึงดูดความสนใจของลูกค้า เมื่อขายบน Facebook คุณยังสามารถใช้วิธีนี้เพื่อให้ผู้คนรู้จักแฟนเพจหรือเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น
แล้วทำไมคุณไม่ใช้รูปแบบโฆษณา Event Responsive เพื่อดึงลูกค้าเหล่านั้นกลับมาซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ของคุณล่ะ? คุณสามารถตั้งค่าหน้ากิจกรรมบน Facebook ของคุณเองหรือสร้างหมวดหมู่โปรโมชั่นบนเว็บไซต์ของคุณและติดตั้งโฆษณาที่นำไปสู่หน้าเหล่านี้
โปรโมชั่นจะมีประสิทธิภาพสูงสุดก็ต่อเมื่อหลายคนรู้จักดังนั้นใช้ประโยชน์จากความนิยมของ Facebook เพื่อเพิ่มผลกำไรในธุรกิจออนไลน์
7. การคลิกลิ้งค์ในตัวโฆษณา Facebook - Domain Ads
“การคลิก” มีหลากหลายแบบในรายงานโฆษณา Facebook บางครั้งอาจจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อวิธีดูผลลัพธ์ ซึ่งคุณรู้ถึงความแตกต่างระหว่างการคลิกบน Facebook หรือไม่?
หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับการวัดโฆษณาของ Facebook เพียงเลื่อนเมาส์ไปวางไว้เหนือแถวส่วนหัวในรายงานโฆษณาของคุณ คุณจะเห็นคำนิยาม hover และจะมีลิงค์ “ดูเพิ่มเติม” ที่จะให้ข้อมูลกับคุณมากขึ้นเมื่อคลิกเข้าไป"
Domain Ads เป็นรูปแบบการโฆษณาบน Facebook ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปี 2019
เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณาประเภทนี้พวกเขาจะเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์หรือแฟนเพจทำให้มีผู้เข้าชมและถูกใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้โฆษณาจะแสดงในทั้งสามที่: ไทม์ไลน์คอลัมน์ ด้านขวาและมือถือจึงมีผู้ใช้จำนวนมาก คุณสามารถปรับข้อมูลรายละเอียดได้เมื่อเพิ่มลิงก์เพื่อให้ดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ค่าใช้จ่ายที่คุณต้องจ่ายจะเป็นต่อคลิกประเภท CPC (ราคาต่อหนึ่งคลิก)
จุดด้อย: โฆษณา Domain Ads จะแสดงเฉพาะในคอลัมน์ด้านขวาเท่านั้นไม่รองรับบนมือถือ
ข้อดี: ต้นทุนถูกกว่าโฆษณาประเภทอื่น ๆ
8. Click to Web Facebook – Multi Products
ที่ผ่านมา เวลาเราจะลงโฆษณาแบบ Click to Website หรือ Website Conversion ใน 1 โพส เราจะใช้ภาพได้เพียง 1 ภาพเท่านั้น แต่ลูกเล่นล่าสุดที่ facebook ได้เพิ่มเข้ามาจะอนุญาติให้เราเพิ่มภาพสินค้าได้ทีละหลายภาพ และแต่ละภาพยังลิ้งค์ไป URL ปลายทางที่แตกต่างกันได้ด้วย คนที่น่าจะชอบลูกเล่นนี้ น่าจะเป็นเจ้าของร้านออนไลน์ไปเต็มๆ เพราะสามารถลงภาพสินค้าได้ทีละหลายตัวโดยลูกค้าจะคลิก หรือ ใช้นิ้วเลื่อนดูไปทางซ้าย (ในกรณีที่เล่น facebook บนมือถือ) เหมือนแคทตาล็อกออนไลน์ดีๆนี่เอง
การโฆษณา Click to Website Multi Products เป็นรูปแบบหนึ่งของการโฆษณาบน Facebook
ด้วยรูปแบบการโฆษณาบน Facebook นี้ประสิทธิภาพการขายบน Facebook จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเนื่องจากคุณสามารถโฆษณารูปภาพสินค้าได้ 5 รูปแบบในเทมเพลตข้อมูลขายเดียวกัน แต่ละภาพมีคำอธิบายรายละเอียดสินค้าด้วย
สิ่งนี้ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ด้วยรูปแบบการส่งเสริมการขายนี้คุณยังสามารถ Remarketing สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้เปลี่ยนมาใช้ Fanpage หรือ Website ด้วยการให้ตัวเลือกมากขึ้นแก่กลุ่มเป้าหมายของคุณ Multi-Product ที่โฆษณาผลิตภัณฑ์และภาพลักษณ์ของแบรนด์ของคุณจะได้รับการพัฒนาและเพิ่มยอดขายได้ดีขึ้น
9. Page Likes Ads - รูปแบบโฆษณาบน Facebook ยอดนิยม
โฆษณา Page Likes เป็นรูปแบบการโฆษณาบน Facebook ที่มีคนใช้มากที่สุดรูปแบบหนึ่ง การขายบน Facebook มี 2 รูปแบบหนึ่งคือการใช้เพจส่วนตัวของคุณเองเพื่อทำการตลาดสินค้าอีกรูปแบบหนึ่งคือการตั้ง Fanpage ที่ทำธุรกิจ
สำหรับผู้ที่กำหนดการขายในระยะยาวอย่างเป็นระบบและต้องการสร้างชื่อเสียงที่มั่นคงส่วนใหญ่จะเลือกตัวเลือกที่สอง ในตอนนั้นปัญหาแรกที่พวกเขาต้องแก้คือทำอย่างไรให้คนรู้จัก Fanpage มากขึ้นและ Facebook ได้เปิดตัวรูปแบบการโฆษณา Page Likes สำหรับเจ้าของร้านค้าออนไลน์
โฆษณา Page Likes เป็นโฆษณา Facebook ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยม
โฆษณานี้จะรวมลิงค์ที่นำไปสู่ Fanpage โดยตรงและปุ่ม "Like page" ผู้ใช้สามารถคลิก Like หรือเยี่ยมชม Fanpage ของคุณได้โดยตรง
รูปแบบการโฆษณาบน Facebook นี้มักใช้กับแฟนเพจที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อเพิ่มยอดไลค์ดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้จากนั้นจึงดำเนินแคมเปญการตลาดหรือการขายอื่น ๆ Page Like Ads สามารถมองเห็นได้ทั้งในไทม์ไลน์ ด้านขวาและบนมือถือคอลัมน์และการเรียกเก็บเงินตามจำนวนไลค์ที่ได้รับ
10. Page Post Engagement
Page Post Engagement คือรูปแบบการทำโฆษณา โดยการโปรโมตโพสที่เราได้โพสลงบน Timeline แบบนี้เราเรียกว่าการโฆษณาแบบ “การมีส่วนร่วมในหน้า Page Post Engagement” หรือบางคนอาจจะเรียกว่าการ “Boost Post (โปรโมทโพสต์)” ก็ได้
Page Post Engagement เป็นรูปแบบการโฆษณาบน Facebook ที่หลายคนรู้จัก
11. Offer Claim
โฆษณาประเภทนี้ใช้เพื่อให้รหัสโปรโมชั่นทางออนไลน์แก่สมาชิกในเพจ ด้วยโฆษณา Facebook Offer โปรโมชั่นพิเศษบนแฟนเพจของคุณต้องมียอดไลค์ขั้นต่ำ 50 ไลค์บนแฟนเพจของคุณ ปุ่ม “Get Offer” วางอยู่บนโฆษณาเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เยี่ยมชมที่สมัครเข้าร่วม
บนโฆษณา Facebook จะแสดงชื่อโปรโมชั่นคำอธิบาย เวลา จำนวนคนที่ลงทะเบียนตลอดจนชื่อแฟนเพจ
12. โฆษณาติดตั้งแอป (App Install)
ปกติแล้วการจะโปรโมทแอพพลิเคชัน นักพัฒนาหลายคนต้องใช้เงินประชาสัมพันธ์ก้อนโตเพื่อทำให้แอพมีชื่อเสียงและมีอัตรา install หรือติดตั้งให้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้ Facebook เลยเห็นโอกาสทองนี้จึงเตรียมเสนอทางเลือกใหม่ที่นักพัฒนาจะทำงานได้ง่ายขึ้นกับพันธมิตรที่น้อยลง ด้วยการเปิดให้นักพัฒนาทุกคนทั้งรายใหญ่หรือเล็กสามารถซื้อโฆษณาประเภท App Install Ads ได้
รูปภาพโฆษณาประกอบด้วยชื่อแฟนเพจชื่อแอพและปุ่มคำกระตุ้นการตัดสินใจ (โดยปกติจะใช้ Use App หรือ Install Now) เมื่อผู้ใช้คลิกโฆษณาจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังหน้าการตั้งค่าแอพพลิเคชั่น, เกม, …
มีจุดที่ควรทราบว่าแบบนี้แบ่งออกเป็นสองประเภทขึ้นอยู่กับแอปพลิเคชันมือถือหรือคอมพิวเตอร์ตำแหน่ง การแสดงผลจึงแตกต่างกันด้วย วิธีการเรียกเก็บเงินคือ CTC หรือ CPI
นี่คือ 12 รูปแบบการโฆษณาที่ใช้มากที่สุดบน Facebook ในปัจจุบัน หากคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กและต้องการค้นหาผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าก็เลือกรูปแบบการโฆษณาบน Facebook แน่นอนว่าคุณจะประสบความสำเร็จกับโฆษณา Facebook ประเภทใดประเภทหนึ่งข้างต้น